Monday, December 14, 2009

นโยบาย


จัดการกับกากกัมมันตรังสีให้ปลอดภัย กำหนดจุดหมายปลายทางของกากกัมมันตรังสีให้ชัดเจน ด้วยเทคโนโลยี ที่ ประหยัดและสะอาด


ก็เพียงความคิดของคนฅนหนึ่ง
มีหลัก มีเกณฑ์อยู่ แต่ ยังไม่ได้ตรวจสอบกับหลักฯ ที่ว่ามานั้น


เอกสาร เท่าที่คัดมา ยังพอมีจาก workshop ด้วย


14 comments:

Anonymous said...

สวัสดีครับคุณลุง
เรื่องกัมมันตรังสีพวกนี้ผมก็งงอยู่บ้าง
ไม่ค่อยเข้าใจในรายละเอียดมากนัก
ผมก็เรียนด้านธุรกิจที่ต้องเรียนวิชาธรณีวิทยา
จึงทำให้บางครั้งมีเรื่องนี้มาเกี่ยวข้องด้วย
ใกล้สอบแล้ว อิๆ^-^ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย
คุณลุงครับตอนนี้ผมอายุ19ต้องขึ้นทะเบียนเป็นทหาร
อายุเท่าไหร่อ่ะครับคือแบบว่าลืมอ่ะครับ เดี่ยวถ้าไม่ไปขึ้นเขาจะหาว่าเราหนีได้ (อิๆหนีดีกว่า ล้อเล่นน่ะครับ)
จากไวน์

มะขาม said...

อุรา เขาครบ ยี่สิบปีพอดีครับ
เขาเรียน กศน ก็เพิ่งไปขึ้นทะเบียนทหารเมื่อกลางปีนี้เองครับ ตอนนั้นก็ ๑๙ ขวบเองแหละ

ไปขึ้นทะเบียนตอนนี้ ยังทันครับ

dekdar said...

งานของลุง ยังมียาวไกล
งานเข้าอีกแล้ว ตั้งใจทำงานละครับ

สำหรับน้องไวน์ ขึ้นเกณฑ์ไว้ในกฏหมาย
อายุครบ 17 ปีบริบูรณ์ จนถึง 20 ปีครับ
หากเกินกว่านั้้น ติดคุกละคร้าบบบที่น้อง
หรือไม่ ก็เตรียมเป็นทหารอย่างเดียว 2 ปี ชัวร์ ๆ ฟันธง

ผมโดนมาเยอะ อิอิ++

มะขาม said...

ซีงิต ก็อย่างนี้แหละครับ
เราได้ปฏิบัติธรรมข้อที่ชื่อ อดทน คนอื่นเขาจะทำอะไรก็ช่างเขา

อ้อ ขอบใจน่ะ ทั้งสองท่าน ที่ต่างมีน้ำจิตน้ำใจให้แก่กันและกัน ช่วงที่ ปณต เขาลงมาปากเกร็ด ก็ได้ใส่บาตรข้าวสุกที่หุงเอง ๑ เช้า ก็ขอให้ บุญ รักษาทั้งสองท่านให้ได้พบแต่สิ่งที่ดีที่งามน่ะ

Anonymous said...

สวัสดีครับคุณลุงและพี่dekdar(ไม่ทราบชื่อของพี่ขอเรียกตามชื่อที่เขียนไว้ข้างบนนะครับ)
ดีนะครับที่มาถามเรื่องขึ้นทะเบียนก่อนไม่งั้นติดคุกแหงๆ (อิๆ^-^ ได้กินข้าวฟรีเลยเรา)
ผมเกิดปี33อ่ะครับสงสัยลูกคุณลุง
ที่ชื่ออุราเกิดปี32แน่เลยตอนนี้ถึง20แล้ว
ตอนนี้ผมก็มาหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกทรัพยากรล่ะครับมีสอบจันทร์ที่จะถึงนี้ก็พวกค่า BOD COD DO และก็พวกภาวะเรือนกระจกและโลกร้อนอ่ะครับ
ผมขออนุโมทนาด้วยคนนะครับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ยังไม่ค่อยได้ทำบุญเลย
จากไวน์

มะขาม said...

ทำบุญ ไม่ยาก ลำบากแค่ยินดีในบุญที่คนอื่นมีด้วยตัวของท่านเอง เท่านี้ ก็ได้บุญแล้ว
ทำเถิด ทำด้วยตนเองเถิด ความดี กรรมที่เป็น กุศล กุศลกรรม ทำให้มากมาก ทำให้บ่อยบ่อย น่ะ

biological oxigen demand, chemical oxigen demand, dissolved oxigen จะเอาไปทำอะไรหรือ อานาปานสติ ก็ไม่ต้องรู้อะไรมากขนาดนั้นนี่นา

วันนี้ ได้พบญาติ สายเลือดเดียวกันจากบ้านหันแฮด มาพบกันที่บางเขน เขาว่า พบญาติ ณ แดนไกล เป็นมงคลอย่างหนึ่ง ก็ขอให้ยินดีด้วยน่ะ

Anonymous said...

ผมขอยินดิกับคุณลุงนะครับ
ปีใหม่นี้ผมก็ได้กลับบ้านแล้วก็คงอยู่กับครอบครัวประมาณ 1 อาทิตย์แล้วมาเรียนต่อ
ขอบคุณคุณลุงเรื่องคำเต็มๆของค่าต่างๆนะครับ
ตอนนี้ผมได้ข้อมูลของโรคอิไต-อิไต(โรคโอ๊ย-โอ๊ย)แล้วครับก็เป็นโรคที่เกิดจากแคดเมียมอ่ะครับอาการก็รุนแรงน่าดูเชียวล่ะครับ ส่วนอีกโรคก็มินามาตะก็เกิดจากปรอทที่ตามโรงงานอุตสาหกรรมบางประเภทปล่อยออกมาตามน้ำเสียอ่ะครับ
จากไวน์

มะขาม said...

มินามาตะ ดูเหมือนจะเป็นชื่อสถานที่ น่ะใช่มั้ยฮึ
ส่วนอิไตอิไต นั่น มันแปลว่า เจ็บเจ็บ (อิไต แปลว่า เจ็บ) แต่อย่าไปร้อง อิต้ายอิตั้ยอิไต อิไตๆๆๆ เป็นอันขาด เพราะถ้าว่าร้องต่อเนื่องกันขนาดนั้น ดูว่ามันไม่เจ็บแล้วหละ แต่ ออกจะมันในอารมณ์เสียล่ะมากว่า น่ะ
ซีโอทู อาจารย์ สันติ์ เตชะกัมพุช (กราบขออภัย หากผู้ศิษย์เลวทรามเขียนชื่ออาจารย์ผิด) ท่านเคยสอนไว้ ว่า ทำไมมันคายความร้อน มันแกว่งยังไง ยังจำท่าทางที่ปรมาจารย์ท่านแสดงให้ดูได้เลย น่ารักมาก ตอนนั้นเรียน statistical thermodynamics หรือ chemical thermodynamics ก็ไม่ทราบได้

โรคร้อนจากโลกร้อนน่ะ แก้ง่าย แค่ปลูกต้นไม้ใหญ่ บ้านละ สามสี่ต้น พืชสวนอีก บ้านละสองสามแปลง

Anonymous said...

มินามาตะเป็นชื่อเมืองหนึ่งในญี่ปุ่นครับ
ที่ชื่อนี้เพราะเกิดขึ้นที่นี่ครั้งแรกน่ะครับ
อิๆผมว่าสอบเรื่องนี้ก็ดีเหมือนกันแล้วล่ะครับจากที่เคยมองข้ามปัญหาโลกร้อน เอลนิโย่ ลานิญ่า ก็ต้องกลับมาให้ความสนใจอีกทั้งได้รู้ว่าระบบวนเกษตรคืออะไร
อิๆเดี๋ยวนี้เด็กธุรกิจเขาพัฒนาแล้ว ^-^
จากไวน์

มะขาม said...

ดีแล้วครับ
อืมม เขา ทำการค้าไปเำื่ออะไรครับ เพื่อให้ได้มาซึ่ง เงิน สำหรับซื้อของ เกินความจำเป็น รึเปล่าหละ
หรือว่าอย่างอื่นครับ
ที่ถาม เพราะอยากรู้ครับ
ตอนนี้ กำลังหาเรื่องราวหลายแง่ หลายมุม หาข้อมูลกว้างๆไว้ ก็ เรื่องนี้แหละ ฮาาา

ขอบคุณมาก ที่สละเวลาแวะมาเยี่ยม

Anonymous said...

ถ้าเป็นในมุมมองของคนทั่วไป
ในการทำธุรกิจนั้นทุกคนก็หวัง
ที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจเองเพราะสามารถที่จะดำเนินกิจการให้ไปในแนวทางที่ต้องการได้ ซึ่งจุดมุ่งหมายหลักก็คือเงิน อำนาจ ชื่อเสียง และมีคนนับหน้าถือตาถ้ายิ่งบริษัทใหญ่และมีความมั่นคงด้วยแล้วล่ะก็คงไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ตามมานะครับว่ามันจะแค่ไหน หลายคนมองเห็นประโยชน์จากตรงนี้เลยทำกัน มันไม่ใช่แค่มีเงินไปซื้อของฟุ่มเฟื่อยหรอกครับแต่มันยังเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกในด้านอื่นๆในด้านของภาคที่ไม่ใข่เอกชนอ่ะครับ(ขอไม่พูดว่าภาคไหนแล้วกันเดี๋ยวได้กินข้าวฟรีจริง^-^) ที่เป็นอย่างนี้เพราะบ้านเรายังให้ความสำคัญในเรื่องของเงินอยู่ วัดน้ำใจคนที่ตัวเงินมากกว่าความจริงใจน่ะครับลุง ตรงนี้จึงทำให้คนหันมาทำธุรกิจกัน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะครับบางคนที่มาทำธุรกิจเองก็เพราะไม่ชอบเป็นลูกน้องใครทำงานเมื่อใจอยากถึงแม้จะอดบางอิ่มบางแต่ใจก็สุขดีน่ะครับลุง
จากไวน์

มะขาม said...

อ้อ ขอบใจมาก ทำให้รู้เพิ่มขึ้นเยอะเลย
แต่ ชอบใจที่บอกมาหลังสุด แม้จะอดบ้าง อิ่มบ้าง แต่ก็สุขใจ
นี่แหละ ความสุขที่แท้จริง

แง่คิดนี้ น่าจะมีส่วนในการพิจารณาสาระที่จะประกอบกันขึ้นมาเป็น โพลิซี
(ที่มิใช่ โพไซดอน คิกคิก)

อีกครั้ง ขอบใจมากเลย

dekdar said...

ได้เรียนรู้อะไรต่อมิอะไรหลายๆ ครับ

ทุกคนสามารถเป็นครูของเราได้หมด

ท่านนบีได้กล่าวไว้ว่า "เราต้องเรียน อยู่บนแปล จนถึงหลุมฝังศพ"

ขอบใจท่านทั้งหลายครับ

มะขาม said...

ถูกต้องครับ
ทุกอย่างเป็นครู ล้มเหลวก็เป็นครู สำเร็จก็เป็นครู


View My Stats