ประหยัดพลังงาน

มาตรการ ประหยัดพลังงานไฟฟ้า
หลายวันก่อน ที่ไปอบรม ที่องครักษ์ พบประกาศเรื่องการประหยัดพลังงานไฟฟ้า หรืออะไรทำนองนี้แหละ มาทำให้นึกขำดูว่า ก็ถ้าว่าจะประหยัดกันจริงๆแล้ว มีวิธีเดียวคือใช้งาน ในอัตรา ๐ หน่วย ซึ่งวิธีปฏิบัติก็โดยการ ไม่ใช้ไฟฟ้า

วิธีนี้ ผู้ที่ควบคุมการใช้พลังงานรับรองได้รางวัลแน่นอน

แต่ในความเป็นจริง การดำเนินงานของหน่วยงาน ไม่ว่าจะทั้งเอกชน หรือ ราชการ ต่างต้องใช้พลังงานกันทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่มากน้อย ที่จะคิดประหยัดพลังงาน  เอาแค่ง่ายๆ กลางวันสว่างโร่ ร้อนแทบตาย พอมีคนมาเยี่ยมชม มะไฟ ยืนบรรยายตรงหน้าห้องน้ำทั้งชายทั้งหน้าห้องน้ำหญิง เขาก็เปิดไฟฟ้าแสงสว่างส่องเข้าให้แล้ว อันนี้ คือการใช้ไฟฟ้าโดยไม่คิด มะไฟ ต้องขอปิดไฟฟ้าแสงสว่างไปซะแทบทุกครั้ง

หรือการใช้คอมพ์พิวเตอร์ ไม่ว่าจะเปิดทิ้งไว้เปล่าๆก็ดี หรือ ใช้งานก็ดี มันต้องมีอุณหภูมิคงที่ มีความเย็นพอสมควรแก่งาน ซึ่งความต้องการนี้ สามารถเกิดขึ้นได็ก็ด้วย การเปิดเครื่องปรับอากาศเท่านั้นเอง

หรือการใช้รถยนต์ ถ้าจะให้ประหยัดพลังงาน ผมว่า อย่าใช้เลย ดีที่สุด เพราะถ้าใช้รถยนต์แล้วต้องการให้ประหยัดพลังงานนั้น เป็นไปไม่ได้เลย

สิ่งที่สามารถทำได้ เพื่อให้เกิดการประหยัดพลังงานมีเพียง การใช้พลังงานให้น้อย เท่าที่จะทำได้ แต่ให้ได้งานออกมา ซึ่ง คนละความหมายกับ การประหยัดพลังงาน ยกตัวอย่างเรื่องรถยนต์ ก็วิธีชาวบ้านๆเขาทำ คือเจอคนที่รู้จัก ก็เรียกขึ้นรถไปด้วยกัน ถ้าไปเส้นทางเดียวกันเขาก็ขึ้น อย่างนี้

ไม่เห็นต้องมานั่ง strict อะไรกันนักกันหนาเลย จนถึงขั้นเขียนใส่เศษกระดาษด้วยลายมือ เอามาแปะผนังห้องว่า

นโยบายประหยัดพลังงาน
เปิดแอร์ เช้า 09.00-11.00
บ่าย 13.30-16.00

แล้วมาเขียนเพิ่ม ต่อท้ายตรงบรรทัดเดียวกับเวลาช่วงเช้าอีก ในหลายเดือนถัดมาว่า 25 C ซึ่งดูแล้ว มันสะท้อนความคิดของคนกลุ่มนั้นได้ดีเลย ชัดเจนเลย ว่าเป็นอย่างไร มีอยู่เท่าไหร่ ลองคิดดู เครื่องมือวัด ที่ต้องการความเย็นมาก มันจะทำงานได้ยังไง ถ้าว่าอุณหภูมิห้องมันกำหนดไว้ที่ 25 C

ก่อนหน้านั้น เคยไปนั่งอ่านหนังสือที่ห้องสมุด สทน. องครักษ์ พบว่า ในห้องสมุดนั้น หนาวสั่นงากๆๆเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง เอ่ยแจ้งแถลงไขว่า อุณหภูมิห้อง ๒๗ องศาเซลเซียสด้วยซ้ำไป แต่ ห้องทำงาน ตึก ๙ สทน บางเขน กำหนดไว้ที่ ๒๕ องศาเซลเซียสนั้น อบอุ่นดีมาก แถมเครื่องคอมพิวเตอร์ ยัง crash ไปวันละหลายหนด้วย

แล้วเราได้อะไร กับการมากำหนดเงื่อนไขลักษณะนี้

บางท่าน นำคอมพิวเตอร์ส่วนตัว มาใช้ใน สทน. แล้วก็เปิดเครื่องทิ้งไว้ ไม่ทราบว่าไปรีโมตจากที่ไหนมา ซึ่งก็ไม่แน่ใจนักว่า จะทำได้/ทำเป็น เพราะนอกจาก OS จะเป็นวินโดว์แล้ว คนยังใช้งานไม่เป็นอีกด้วย ไม่ได้ดูถูกหรอก ดูไม่ผิดเลย

แล้วเราได้อะไร กับการมากำหนดเงื่อนไขลักษณะนี้
กลั่นแกล้งกันชุดเจนดี เอาคนที่ไม่ได้เรื่องมาทำงานได้ ชัดเจนดีมาก งั้นรึ
ไม่น่าจะไม่ใช่น่ะ

ทบทวนซะ น่ะ การเป็นองค์การมหาชน ไม่ได้หมายถึงว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงแล้วน่ะ ถ้าคนที่อยู่ในองค์กร ยังมีความคิดเดิมๆ

สงสัยว่าจะตั้งชื่อเรื่องไม่ถูกต้องน่ะ
ไม่น่าจะไม่ใช่น่ะ