Wednesday, July 16, 2008

มงคล หรือ ปีติธรรม: ซังฮี้

สิ่งที่นับเนื่องถึงความปีติ ยินดี กับคนต่างแดน หนึ่งในนั้นก็คือ การได้พบปะกับเพื่อนเก่า
วานนี้, ๑๕ กค, ได้พบหน้าสหายสนิท สมัยยังอยู่ในวัยเด็ก ช่วงที่กำลังเรียน ชั้นประถมปลาย ช่วงที่ ครอบครัว เริ่มเผชิญมรสุมซีงิต
ช่วงนั้น เราทั้งสองต้องตื่นแต่เช้า วิ่งไปที่เพิงร้านค้า ก่อไฟติดเตาต้มน้ำ ปัดกวาดสถานที่ เพื่อขายอาหารเช้า เครื่องดื่มเช่น ชา กาแฟ โอวัลติน ให้กับ ข้าราชการอำเภอ ตำรวจ ครูประจำโรงเรียน และ ผู้คนที่เดินทาง ด้วยรถยนต์ เข้าไปยัง ตัวอำเภอเมือง ในยามเช้า สายหน่อย ก็ไปจ่ายของที่ตลาดสด นำกลับไปบ้าน และช่วงเย็น หลังเลิกเรียนแล้ว ก็ต้องกลับไปเก็บร้าน เตรียมสั่งของใช้จากร้านเจ็ก สำหรับวันรุ่งขึ้น

ตอนนั้น เราต่างสนุกกับกาลเวลา โดยไม่ได้กังวลถึง พายุ ที่โหมกระหน่ำใส่ครอบครัวเลย แม้แต่หน่อย แลช่วงนั้นเอง ที่ได้เป็นตัวแทนของอำเภอ ไปแข่งวิ่งเร็วที่ตัวจังหวัด
ก็คงเป็นผล จากการตื่นเช้า ออกกำลังกาย โดยสม่ำเสมอนั่นแล แต่ที่จำได้แน่ๆ ก็คือ คำแนะนำของเพื่อน ที่บอกให้เอาน้ำค้างจากยอดไม้ มาทา หรือ ลูบหัวเข่า นัยว่า

เจ้าสิดั้ยแลนหันหัน

นึกดูแล้วก็ให้ขำ แต่จะปฏิเสธนักคงไม่ได้ เพราะการได้เป็นตัวแทน วิ่งเร็ว ของอำเภอไปแข่ง นั้นก็หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้อยู่

เราเคยลำบากมาก ขนาดว่า พักเที่ยง กลับบ้าน เราต้องทำบ่วง มาคล้อง กะปอม ไปจี่กินกับแจ่วกะปิ กับข้าวก้นหม้อสองสามทัพพี กินกันสองคน ประทังหิว แล้วก็ไปเรียนในช่วงบ่าย

ประมาณ ๒๕๐๘ เราต่างแยกย้ายกันไปตามวิถีของแต่ละฅน

กระทั่ง เมื่อวานนี้ ประมาณ ๑๕ นาฬิกา ๑๕ กค ๒๕๕๑ มีคนมาถามถึง เอ่ยชื่อคุณพ่อ คุณแม่ได้ถูกต้อง เอ่ยถึงความเป็นไปในช่วงนั้นได้ ใกล้เคียงกับความทรงจำขณะนี้ ลำดับโคตรเหง้าได้ครบครัน

ใช่ เราสองคนได้มาพบกันอีกครั้งหนึ่ง สำราญคู่

No comments:


View My Stats