Thursday, December 25, 2008

ธรรมาภิบาล: Good Governance --> core team

สืบเนื่องจาก ธรรมาภิบาล: Good Governance ที่ สทน. จัดให้มีสัมมนาเรื่องการแปลงแผนยุทธศาสตร์ สู่แผนการปฏิบัติ ระหว่าง ๒๒ ถึง ๒๓ พย ๒๕๕๑โดยการว่าจ้าง หน่วยงานข้างนอก มาช่วยทำให้ ด้วยการนำ balance scorecard มาใช้ นัยยะว่าจเอาให้ได้ถึง individual strategic job description นั่นเทียว

ในเรื่องที่ผ่านมานั้น ได้กระทบถึงเรื่องของ หิริ และ โอตตัปปะ อันเป็นธรรมที่ทุกฅนพึงมี ก็เพื่อให้ผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องธรรมาภิบาลได้ตระหนักไว้ ว่า หากตัวท่านเองปราศจากความละอาย และ ความเกรงกลัวต่อบาปแล้ว ก็อย่าหวังว่า องค์กรที่ท่านสังกัดอยู่นั้น จะเจริญขึ้นไปได้ดี

ในเรื่องที่ผ่านมาเช่นกัน ได้กระทบ หรือ พาดพิงถึงการมีส่วนร่วม ซึ่งเป้าหมายที่แท้จริงก็คือ การคัดเลือกคนเข้าไปมีส่วนร่วมนั่นแหละ เพราะเลือกทีไร ก็มักจะไม่มีที่ยุติสักที ทั้งนี้เพราะไม่มีธรรมนั่นหรือเปล่า ผลที่ได้จึงกลายเป็น อธรรม ไป หรือ อยุติ หรือที่เรียกรวมรวมว่า อยุติธรรม นั่นแล

ในงานนั้น เขาจัดให้มีกลุ่มคนไปทำงานเพื่อหา objective, objective statement, csf, indicator etc ฯลฯ กันประดานี้ แลเรียกกลุ่มคนนี้ว่า core team ซึ่งเมื่อได้ยินคำนี้แล้วมัน ของขึ้น ขึ้นมาทันที เพราะจากประสบการที่ผ่านมา เคยเห็นเมมเบอร์ของ core team บางทีม ที่ได้เป็นเมมเบอร์ได้ยังไงก็ยังสงสัย เพราะนึกหาเหตุผลมาอธิบายประกอบไม่ได้เลย แม้แต่น้อย

เอาหละ นั่นเป็นเรื่องที่เขาต้องได้รับผลแห่งการกระทำของเขาเอง

วกมาดู core team ที่ตั้งขึ้นมาบ้าง ซึ่งเมื่อไปทำงานแล้วก็กลับมาประชุมกันอย่างคึกตัก เข็มแข็งขึงขัง ทำนองว่าจะลบคำสบประมาทออก

ไม่ว่ากัน

ก็ระหว่างการประชุม เห็นว่ามี CSF อยู่ตัวหนึ่งที่เขียนชัดเจนว่า
ประชาชนได้รับรังสีในเกณฑ์ที่ปลอดภัย
เลยแย้ปๆไปว่า

นี่ ประชาชนมีหน้าที่ต้องออกไปรับรังสีด้วยหรือ
หากไม่ได้รับ พอถึงเวลาต้องเดินแอ่นอกออกมารับรังสีด้วยกระนั้นรึ
แล้วถ้าได้รับ หากยังไม่ถึงเกณฑ์ ก็ต้องยืนรับจนกว่าจะถึง อย่างนั้นหรือเปล่า
คุณเขียนไปอย่างนี้ เท่ากับบังคับเขาน่ะ ฯลฯ

core team ก็ core team เหอะ เจอคำถามบ้าๆอย่างนี้เข้าก็ไปไม่เป็นล่ะกัน ถึงกับลนลานแก้ไขกันจ้าละหวั่น จากประชาชน เป็น กลุ่มเป้าหมายมั่งล่ะ แต่ดูเหมือนว่า จะติดเงื่อนตายที่ว่า จะกลายเป็นว่าประชาชนมีหน้าที่ที่ต้องได้รับรังสี... ที่แก้ไม่ตก

โถ

ความจริง ก็เข้าใจในสิ่งที่เขียน เพราะก็ไม่ใช่คนอื่นไกลที่ไหน คนในวงการเดียวกันทั้งนั้น
ความจริง ที่ท้วงไปก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า ในเรื่องเดียวกันนั้น เราสามารถมองได้หลายมุมมอง ต่างหาก แลหากไม่พิจารณาให้รอบคอบแล้ว ก็อาจจะกลายเป็นผลที่คาดไม่ถึง อย่างที่มีผลให้ core team หน้านิ่วคิ้วขมวด อยู่ก็ป็นได้
ที่ท้วงไปก็เพียงจะทดสอบกึ๋นของเมมเบอร์ของ core team ที่ถูกคัดเลือกไปว่าจะมีคุณวุฒิพอเพียงสมกันกับที่ได้รับเลือกไปหรือไม่ เท่านั้นแหละ นี่ก็อีกประการหนึ่ง เป็นการ ประเมิน

ก็อย่างที่เห็น

core team หรือ คอทีม กันแน่

เริ่มที่บางเขน มาหยุดเอาตรงนี้
ที่ ม.๔ หนองมูล ประตูป่า
หริภุญไช เมืองจ้าวแม่ แม่จ้าวจามเทวี

1 comment:

มะขาม said...

ความจริงแล้ว เรื่องของ core team เป็นเรื่องที่สากล ที่ไหนที่ไหน ก็มีเหมือนกันนี่ไง หลักฐาน
http://ivoras.sharanet.org/blog/tree/2008-12-27.the-circle-of-technology-and-freebsd.html
ลองไปดูกันน่ะ


View My Stats