Monday, May 2, 2011

เกาะเกร็ด : เกาะแห่งชีวิต

๓๐ เมษายน ที่ผ่านไป ไปโรงเรียนกับหลาน เสร็จธุรของเขาก่อนเที่ยง เดินออกมาเลียบถนนติวานนท์ ผ่านวัดชลประทานฯ จึงพาหลานเข้าไป กะจะไปไหว้พระในโบสถ แต่เจ้ากรรมเหลือเกิน หาโบสถไม่เจอ จะหาต่อ หลานก็พ้อว่าหิวน้ำ เลยจำใจออกจากวัด

ไม่ไกลจากทางออก มีรถเปิดท้ายขายน้ำ ก่อนถึงสะพานลอยคนข้ามเล็กน้อย รอดตัวไปที่ไม่ถึงกับโดนข้อกล่าวหาว่า พาหลานไปทรมานให้หิวกระหายน้ำ

เพื่อน เพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย
พวกเราเดินข้านถนนไปฝั่งตรงกันข้าม เรียกแท้กซี่ ไปยังวัดสนามเหนือ ระหว่างทาง หลานมันก็จ้อไปตามประสา แท้กซี่ที่ยังไม่คุ้นกับมัน ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สำหรับ มะไฟ ก็ อืมม เออ อ้อ ไปเพื่อไม่ให้มันจับได้ว่า พูดแล้วไม่ฟัง ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่ว่า ถ้ามันสอบได้ที่ ๑ หรือ ได้ที่ ๑-๕ หรือ ได้ ๑๐ อันดับแรก มันจะเอานั่น นี่ โน่นไปเรื่อย แท้กซี่ เขาขำ ตรงที่มันเปลี่ยนใจไปเรื่อย ตามประสาเด็ก

พวกเราแวะเข้าไปไหว้พระที่โบสถวัดสนามเหนือก่อน ก็เจอกันกับเพื่อน เพื่อนร่วมเกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่อยู่ในอีกภพ-ภูมิหนึ่ง เขามาต้อนรับ ทักทาย และเล่นด้วยพอให้ได้ชื่นใจ

ไหว้พระ หลวงพ่อรดน้ำมนต์ให้แล้ว แนะหลานว่า ให้เล่นกีฬาด้วย โดยเฉพาะ badminton โรงเรียนชลประทานวิทย์ฯ เขาเด่นเรื่องนี้ โซล มันบอกว่า เป็นแต่วิ่ง

ลงเรือข้ามไปวัดปรมัยฯ ไหว้พระแล้ว แ่นอน สั่งเมี่ยงคำไว้ เดินตามทางเดินรอบเกาะวนทวนเข็มนาฬิกา ไปเจอเจ้าเหมียว น่ารักที่หมายมั่นเอาไว้นานแล้วว่า ต้อง เก็บ ให้ได้ เเริ่มด้วยการไปซื้อน้ำเจ้าของร้านก่อน แล้วถือโอกาสเข้าไปถ่ายรูปเจ้าเหมียวมาจนได้

ยังไงก็ยังไม่ได้รูปสวยๆ เพราะเขากำลังหลับ แม้ขาออก เขาจะเปลี่ยนที่ แต่ก็กำลังหลับ รูป เอาไปเก็บไว้ใน album มอ แมว นั้นหายาก ใน facebook มะไฟ หากสนใจอยากดู ก็ขอเป็น friend มาล่ะกัน

ร้านเมี่ยงคำอีกร้าน ที่ขอกิ่งทองหลางไว้ เธอบอกว่า ยังไม่สะดวกเข้าไปในไร่ ก็ขอบคุณมากแล้ว กับน้ำใจที่ยังจดจำกันได้ และ แวะนั่งรอเมี่ยงคำห่อใบทองหลาง ๒ แท่ง อืมม ห่อเป็นคำๆแล้วเสียบไม้ ๑ แท่ง มี ๔-๕ คำ เขาเรียกลักษณะนามว่าอะไร ฮึ จะเรียกไร ก็หมด หมดก่อนเข้านั่งที่ศาลาประเพณีไทย-รามัญ ซะอีก

น้องโซล ตรงรี่ไปเอาไอติมแท่งมากิน แล้วสั่งข้าวผัดใส่ไข่มากินด้วย ก็ เที่ยงกว่าแล้วนี่ มานั่งที่ศาลาประเพณี ที่เขาเคยรำให้ดูทุกวันหยุดนั่นแหละ แต่วันนั้นยังนับว่า เช้า อยู่ เห็นแต่วงดนตรีไปที่ พี่ๆ ลุงๆท่านกำลังง่วนกับเครื่องดนตรีของท่าน

ศาลาที่พักนี้ อยู่ก่อนถึงทางเข้าวัดไผ่ล้อมเล็กน้อย เป็นจุดพักให้คลายเหนื่อยได้เป็นอย่างดี ถ้าพาครอบครัวไป ก็อาศัยนั่งพักกัน ได้เลย ทั้งครอบครัว

พออิ่ม น้องโซล ก็อาศัยเสื้อมะไฟนี่แหละ เข็ดปาก เช็ดมือ เอาเข้าไป งวดนี้ ไม่เข้าไปทอซอนอีก เพราะอิ่มข้าวผัดแล้ว พวกเราเดินตรงไปวัดเสาธงทอง ที่ มะไฟ ขอน้องโซลว่า อย่าขัดน่ะ ขอนั่งสมาธิสักห้านาฑี สิบนาฑี เธอก็นิ่งๆ เลยหยิบกล้องมาให้

โซล ถ่ายรูปเล่นก็ได้น่ะ

สงบ ที่ต้องรู้ด้วยตนเอง บอกใครไม่ได้
ก็พอได้ความสงบขึ้นมาบ้าง ครั้งนี้ ก็อีกหน ที่มาเจอกับกลุ่มครอบครัวที่เขามาถวายสังฆทาน มะไฟ เลยร่วมอนุโมทนาสาธุด้วย พระท่านก็รดน้ำมนต์ให้ ทั้ง มะไฟ และ น้องโซล เรื่องทำนองเดียวกันนี้ก็เกิดที่วัดหน้าพระเมรุฯ วัดหริภุญชัย ด้วยก่อนหน้านี้
พระประธาน วัดเสาธงทอง ฝีมือน้องโซล

ขอบคุณครอบครัวนั้น และเพื่อนร่วม เกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกหลายท่าน ในวันนั้น ที่รดน้ำมนต์ด้วยกัน ที่ได้ทำบุญร่วมกัน ขอให้อยู่เย็นเป็นสุขเถิด ออกจากโบสถ น้องโซลมาเล่นถังสังฆทาน ก็ไหวไม่ทันเด็ก หรืออาจจะยังงี้กระมังที่เรียกว่า มารมาบัง ไม่ให้ไปถวายสังฆทานกับน้องโซลอีกหน

พวกเราแวะไปไหว้พระในโบสถวัดไผ่ล้อม ซึ่งหลวงพ่อท่านก็รดน้ำมนต์ให้ด้วย แล้วออกมาเดินรอบเจดีย์หลังโบสถระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ให้แปลกใจ ที่งวดนี้ได้รับน้ำมนต์ สามโบสถ ดูว่ามากไปจริงๆ บุญหล่นทับรึเปล่า ก็ไม่แน่ เพราะดูว่าไม่สบายคีงมาก พอออกจากเกาะเกร็ดได้ ถึงวัดสนามเหนือ ก็จับแท้กซี่ มุ่งตรงกลับบ้านอย่างเดียว

ถึงบ้าน นอน จนหัวค่ำคุณตาน้องโซลมาปลุก น้องโซลเอาข้าวต้มมาให้ กินกับหมูหยอง ไข่เค็ม ถึงได้รอดตัวไป ขอบใจน่ะ โซล

นี่ยังหวาดเสียวอยู่เหมือนกันว่า ถ้าแวะเข้าเซ็นทรัล ตามที่น้องโซลอยากไป ตั้งแต่แรกที่เรียกแท้กซี่ไปวัดสนามเหนือนั้น จะเป็นยังไง เพราะคงไปเจอเอากับ สทน. ที่ชั้น ๕ แน่ๆ แล้วจะตอบคำถามทารกได้ยังไงว่า เราไม่รู้ว่า สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ จัดงานที่เซ็นทรัล เพราะเจ้าเบ้ส เจ้าไบ้ท์ เจ้าเอิน และอีกหลายเจ้าเพื่อนน้องโซลทั้งนั้น รออยู่ที่บ้าน เขาพลาดโอกาสที่จะมาสนุกกับงานที่ สทน. จัดขึ้น

รึจะเป็น บุรพกรรม

เอาน่า รอดมานั่งเขียนบันทึกนี้ได้ ก็บุญแล้ว

No comments:


View My Stats