ฝนตก โชคดีที่แท้กซี่ไม่ปฏิเสธ
ทำบุญไว้เยอะ ว่างั้นเถอะ
พอถึงเขตหมู่บ้าน ดูว่า มันแห้งซะ ยังกับไม่รู้จักฝน แต่ พี่คนขับบอกว่า ไม่ใช่หรอกครับ น้ำยังเปียกพื้นอยู่เลย และ ก็จริง หมู่บ้าน น้ำท่วมชนิดที่ ปฏิเสธไม่ได้ แม้แท้กซี่จะจอดชิดประตูบ้าน ก็ ตัดใจ ยังไงก็เปียก ลงเดินลุยน้ำเข้าบ้านเท่านั้นเอง ทั้งรองเท้า ทั้งถุงเท้า
ระหว่างทาง รถติด พี่คนขับ ก็เปิดรายการธรรมทางวิทยุ ที่พอฟัง ก็ถามเขาว่า
อภิธรรมใช่มั้ย
ไม่ได้อวดเก่ง อวดรู้ แต่ เพราะข้อความ ใจความที่พูด ไม่คุ้นกับที่เคยอ่านใน พระสูตร มาบ้างเล็กน้อยนั้น จึงโพล่งไปยังงั้น และก็จริง เขาสอนอภิธรรมกัน ถกอภิธรรมกัน เอาง่ายๆว่า เถียงกันแหละ
นึกถึงพระพุทธทาส ที่ท่านบอกว่าอภิธรรมเต็มกุฏิ อภิธรรม เป็นพระธรรมส่วนเกิน และ นึกถึงพระสูตร ที่อ่านมาว่า ธรรมที่ร่ำเรียนมาไม่ครบไม่ดี เรียนมาแล้วเอาแต่เถียงกัน ไม่เกิดประโยชน์อันใดเลยกับผู้เรียน
รู้สึกเช่นนั้นจริงๆ จะถกเถียงกันไปทำไมก็ไม่รู้ แปลกจริง ทำไมชอบเรียนอภิธรรม แล้ว นำมา สอน กันทางวิทยุ ซึ่งคนฟังเขาฟังแล้ว ไม่ได้มีความรู้สึกเป็นอย่างอื่นหรอก นอกจาก มาทะเลาะกันออกอากาศ
ขออโหสิด้วยน่ะ รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
คน คนธรรมดา แม้แต่แค่ศีล ๕ ข้อยังปฏิบัติได้ไม่ครบ แล้วจะมีความธรรมดาเกิดขึ้นมาได้อย่างไรกัน ก็คงคาดเดาได้ คุณวิเศษก็ยากที่จะเกิดขึ้น มีขึ้นมาได้กับคนที่ แม้แต่ศีล ๕ ยังไม่เต็ม
ในคิริมานนทสูตร ก็ล้วนบอกไว้ชัดดี ถึงการตั้งตัวเป็นอาจารย์สอน
ในมหาจัตตารีสกสูตร ก็บอกไว้แจ่มแจ้งดี ถึง สัมมาทิฐิ ที่ว่า มี ๒ ส่วนคือ เป็นสาสวะ เป็นส่วนแห่งบุญ ให้ผลแก่ขันธ์ หนึ่ง กับ ส่วนของพระอริยะ เป็นอนาสวะ เป็นโลกุตร หนึ่ง ประมาณนี้
จำได้ว่า เคยรู้มาว่า หลวงปู่สิงห์ หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ท่านไม่ได้สอนอะไรมาก นอกจากให้ยึดเอาคุณพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง แม้จะทราบว่า ยุคนั้น คนนับถือผี หลวงปู่ท่านต้องการให้หันมายึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งแทน แต่หากจะเริ่มกันที่ตรงนั้นด้วย ในยุคนี้บ้าง ก็คงไม่เสียหายอะไร เพราะ ยุคนี้ คนก็ไม่มีอะไรเป็นสรณอยู่แล้ว
เอาแค่ให้มีสัมมาทิฐิในตนให้ได้ก่อนเถิด เป็นดีแน่
ธรรม มากเกินไป มันก็เฟ้อ
ก็ได้แต่หวังว่า ขอให้ได้พบพระอริยะสงฆ์ด้วยเถิด ขอให้ได้ดวงตาเห็นธรรมด้วยเถิด
Thursday, August 18, 2011
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment