Thursday, May 17, 2012

บุญหลง ... วัดนาป่าพง

ขออนุญาตเขียนถึงเรื่องที่ผ่านไปแล้ว ก็ ไวไว นี่แหละ ๑ สัปดาห์ ก่อนทำบุญวันเกิด
ความจริง วันนั้น วันที่ ๖ พค ตั้งใจจะไปงานยกช่อฟ้า ที่โบสถวัดเสาธงทอง แต่ลืม อาจจะเพราะความอยากไปวัดนาป่าพงมันมากเกินไป กอรปด้วยพอดีมีช่อง ได้ไปโดยสะดวก เลยพลาดไปวัดเสาธงทอง ที่เกาะเกร็ดจนได้ ทั้งที่กำหนดไว้ในใจแล้วว่า ต้องไป

สติ-สัมปชัญญะ

ในเรื่องของวัดนาป่าพง ที่สนใจเพราะหลวงพ่อท่านไปออกรายการทีวี แล้วยกประเด็นคำสอนขององค์พระศาสดา มาเป็นหลักสำหรับอ้างอิง ก็เห็นด้วย เลยวาง link ไว้ นานแล้วด้วย

เคยดูใน internet แล้วโทรฯเข้าไปถาม
ได้ความว่า ให้ลงที่ 711 ตรงคลอง ๑๑ นั่นนั่งมอไซด์มา มันจะใกล้กับยูเทอน ...

ถ้าจะมาฝึกในวันศุกร์ ให้บอกล่วงหน้า...

ประมาณนั้น... ก็เมื่อวันก่อนหน้านี้, ๖ พค ๒๕๕๕, ตาน้องโซล จะไปต่างจังหวัด เลยถามว่า

จะผ่านคลอง ๑๐ มั้ย

ตาน้องโซล ก็เลยวิ่งผ่านไปให้ พอเห็นคลอง ๑๐ ก็หาที่กลับรถไม่เจอ แวะปั้มข้างทาง ..ล้างมือ
ถามมอไซด์ได้ความว่า 711 ข้างหน้ามีอีก, วัดนาป่าพง ยังไม่ถึง
ก็เลยแวะซื้อไวตามิลค์ให้ตา ซื้อผัดกะเพาไก่ราดข้าวกับน้ำ นั่งกินริมถนน ตรงป้ายรถเมล์ สายธัญญะนั่นแหละ

ลองๆเดินไปดู เห็นว่ามีวินมอไซด์ ก็เลยนึกถึงที่เคยถามไว้นานแล้วนู้น

กรรมนำพา บุญนำชักจริงๆ
นั่งมอไซด์ไป เข้าไป นั่งฟังหลวงพ่อเทศน์
จบแล้วไปกราบไหว้พระซะ

ระหว่างที่นั่งๆฟัง ก็พลันนึกได้ เขามาวัด มีแต่เอาของมาให้ นี่ตั้งใจแต่จะมาเอาๆๆ เลยที่คิดจะมาขอต้นทองหลางไปนั้น ล้มเลิกความคิดซะ

มันผิดวิสัยที่คนทั่วไปเขาทำกัน

พอกราบหลวงพ่อแล้ว นึกได้ เจ้า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมนำพา เธอบอก ฝากนมัสการพระอาจารย์ด้วย ... ก็เลยไปไหว้ท่านอีกหน บอกท่าน ท่านก็ยิ้มๆ คงขำที่เห็นอาการรีรีรอรอ แล้วถือโอกาสขอโสดาบันฯ มาด้วย (๑ เล่มน่ะ หนังสือน่ะ)

ส่วนความเป็นโสดาบันนั้น ต้องทำเอง ถึงจะรู้เองเห็นเอง ด้วยตัวเอง

ไปวัด ไม่ยากหรอก แต่ที่แปลกใจคือ ทำไมคนไม่ชอบเดินกัน
ระยะทาง ก็ไม่ได้ไกลอะไรนัก เดินไปทีละก้าวๆ ซ้ายที-ขวาที แล้วก็วนไปซ้ำไปซ้ำมา ประเดี๋ยวก็ถึง

คนกลับไม่ชอบเดิน แต่ มักง่ายนั่งรถไปซะงั้น

วานนี้ ก็รำรำจะออกเดินไปแล้ว ดีแต่ แท้กซี่โผล่ออกมาซะก่อน กับ ให้นึกสงสาร...
สงสารชาวบ้าน ถ้าหากว่า มะไฟ เป็นลมไป เขาต้องโกลาหลพาไปส่งโรงหมอ

เลย ตัดใจนั่งรถมาซะงั้น

ยาก ตรงที่ไม่เข้าใจอรรถถ้อยความที่พระสารีบุตรท่านพูดถึง สักกายทิฏฐิ นั่นแหละ ถ้าหากว่า สักแต่ว่ามองทุกอย่างแค่ นาม-รูป ก็

โอเชแหละ .. โสดาบัตติมรรค-ผล เกิดขึ้นแล้ว

ความปกติทางใจ ศีลระดับใจ ที่ แม้แต่คิดก็อย่าให้ไปล่วงละเมิดทั้ง ๕ ข้อนั้น ทุกลมหายใจเข้าออก เอากันถึงขนาดนี้แหละครับ
ชาวบ้าน ทำยากมาก ทำได้ ก็บางช่วง บางเวลาของการใช้ชีวิตเท่านั้นแหละ

แต่ ถ้ามองว่า อย่าให้กลายเป็นถือศีลโง่ๆ ก็ใช้ได้แล้ว อริยะกันตศีล (เขียนผิด อย่าว่ากน) ก็น่าจะเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป

ส่วนข้อมั่นคงในพระรัตนตรัยนั้น อันนี้ ก็ยังพอทำได้บ้างแล้ว

เฮ้อ อวดอีกแล้ว อวดอีกแล้ว อสัตตบุรุษอีกแล้ว

ขากลับ ไม่มีรถแฮะ

No comments:


View My Stats