Thursday, June 18, 2009

หลักสี่ เราสาม แยกกันไป คนละทาง

ค่ำวันที่ ๑๕ ที่ผ่านมา ฝนตกหนัก หนา นาน ตั้งแต่ยังไม่เลิกงาน เลยต้องอยู่ค่ำ ก็ทำงานกะล้อกก้อกแก้กไปด้วยแหละ จนกระทั่ง จะสองทุ้ม ดูว่าคงไม่มีเค้าว่าจะหยุด

ก็ตัดใจว่า เอาล่ะ แท้กซี่ ๒๐๐ ก็ ๒๐๐ เอาไงเอากัน ยอมแล้ว

แต่มานึกได้ว่าวันพระ ก็สวดมนต์เพิ่มจากปกติ ยืนสวดต่อหน้าพระแก้ว หน้าที่นั่งนั่นแหละ

จนจบ ปิดห้อง ออกมาพิมพ์นิ้ว เดินออกมา ยังไม่พ้นมุมตึก ๑ ดี ก็ได้ยินเสียงเรียก ให้ขึ้นรถไปด้วยกัน ก็ขอบใจ และบอกน้อง, สุรัตน์ มีขันทอง, ไปว่า ขอลงที่หลักสี่

น้องนางอีกคน ก็ ที่เคยขายส้มตำ แล้วเอามาเขียนแซวเขานั่นแหละ เธอติดรถไปด้วย บอกว่าขอลงที่ IT Square เราก็ว่า

แหนะแหนะตรงนั้นแหละ ขอลงตรงนั้น

นานน่ะ แต่ก็ได้ลงตรงนั้น น้องนาง เธอ ก็จากเราตรงนั้น ไปทางดอนเมือง สุรัตน์ ก็ไปยูเทอน ย้อนกลับไปทางมหานคร ส่วนเราเอง ก็มุ่งสู่กฤษดานคร ปากเกร็ด

ขอบใจมากเลย สุรัตน์

ออกเดินข้ามทางรถไฟ ยังไม่ทันพ้นทางลงของสะพานข้ามวิภาฯ มา แจ้งวัฒนะ ดีเลย รถตู้ มาจอดเทียบข้างๆ คนขับเขาก็พยักหน้าให้ ก็รีบขึ้น พร้อมกับขอบคุณพี่เขาอย่างมากเลย ที่จอดรับเรา

บุญมากจริงๆ ดูเอาเถอะ นี่เพียงแค่ ยืนสวดมนต์ไหว้พระ ยังได้ดีขนาดนี้

หากทำดีมากกว่านี้ คงได้ขึ้นสวรรค์กันบัดเดี๋ยวนี้เลยมั้งเนี่ย

สำคัญว่า ส่วนใหญ่ คงอยากอยู่บนโลกนี้ต่อไปน่ะซี

แต่ ก็คงเป็นบุรพกรรม ของ เรา สามฅนด้วยแหละ ที่เป็นเหตุให้สิ่งดีดีเกิดขึ้นมาได้ อ้อ น่าจะ สี่เน้าะ พี่คนขับรถตู้อีกท่านหนึ่ง แต่ อืมม ก็ ทั้งหมดนี่แหละ

นโม ตสฺส ภควโต
อรหโต
สมฺมา
สมฺพุทฺธสฺส นโมตสฺส ภควโต
อรหโต
สมฺมา
สมฺพุทฺธสฺส นโมตสฺส ภควโต
อรหโต สมฺมา
สมฺพุทฺธสฺส

พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
ทุติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ทุติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
ทุติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ
ตติยมฺปิ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ
ตติยมฺปิ ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ
ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ

วันนี้ วันพระ ผมขออาราธนา ศีล ๕ ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ สำหรับชีวิตประจำวัน ในวันนี้ จวบจนตลอดชีวิต และ ตลอดไปด้วยครับ
อันว่า ศีล ๕ ประกอบด้วย งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ งดเว้นจากการลักทรัพย์ งดเว้นจากการประพฤติผิดในกาม งดเว้นจากการพูดเท็จ งดเว้นจากการดื่มสุราเมรัย
ผมขอยึดเอาเป็นแนวปฏิบัติ สำหรับวันนี้ จวบจนตลอดชีวิต และ ตลอดไป

ปิโย เทวมนุสฺสานํ ปิโย พฺรหฺมานมุตฺตโม
ปิโย นาคสุปณฺณานํ ปิยินฺทฺริยํ นมามิหํ
๙ จบ
สมฺปนฺโน วรสีเลน สมาธิปวโร ชิโน
สยมฺภูญาณสมฺปนฺโน สณฺหวาจํ นมามิหํ
๙ จบ
วาละลุกัง สังวาตังวา
๓ จบ
ทุกคำ ที่เปล่งออกมาจากปาก ขอให้ตั้งใจ มีสติ

ใน ๓ บทท้ายนั้น สองบทแรกคือ บทสรรเสริญพระพุทธคุณ คาถาที่ ๓ ปิ และ คาถาที่ ๓๗ ส ในรัตนมาลา ๑๐๘ ตัวคาถา ได้มาจากหนังสือ ที่เอามาจาก คุณแม่ของ กุสุมา ศรีโยธา ส่วนอุปเทห์ ได้มาจาก ที่อื่น สำหรับ บทสุดท้าย เป็นคาถาบูชาพระแก้วมรกต ที่คนไทยรู้จักกันดี

บุญแค่นี้ มะไฟ ก็พอใจแล้ว ผลไม่คาดหมาย เท่าที่เล่ามา ก็พอใจเป็นที่สุดแล้ว สำหรับ มะไฟ ฅนยาก กุศลทั้งหมด ทั้งหลายทั้งปวง ก็ขอยกให้กับ คุณแม่ และ กุสุมา ศรีโยธา และทุกรูป-นาม

No comments:


View My Stats