Tuesday, May 17, 2011

วิสาขะปูชา

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอนอบน้อมแด่พระธรรมของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ขอนอบน้อมแด่พระอริยสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
ข้าพเจ้าขอยึดมั่นเป็นที่พึ่งอันเกษม ไม่มีที่พึ่งอื่นใดยิ่งใหญ่กว่า
แม้เป็นครั้งที่หนึ่ง แม้เป็นครั้งที่สอง แม้เป็นครั้งที่สาม

....เพลิงกิเลสเพลิงทุกข์เหล่านี้ ยกเว้นพระพุทธเจ้าเสียแล้ว ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดในโลกดับได้  แต่ผู้ที่จะรู้ว่าเป็นเพลิงเครื่องร้อนเท่านั้นก็หายากเสียแล้ว ผู้ที่จะดับเพลิงนั้นจะได้มาแต่ไหนเล่า....

ราคะ โทสะ โมหะ คือเพลิงกิเลส
เกิด แก่ เจ็บ ตาย โสกะ ปริเทวะ อุปายาสะ คือเพลิงทุกข์ อันมีความเกิดเป็นจุดเริ่ม

คัดลอกจากบางส่วนของ ธรรมเจดีย์ ธรรมะชำระใจ ของสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทธสิริ)


อ่านพอให้เกิดพละกำลัง
พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
๓. จักกวัตติสูตร (๒๖)
จบ อัคคัญญสูตร ที่ ๔   ※ธรรมเท่านั้นแบ่งแยกสัตว์แทั้งในเวลาปัจจุบัน ทั้งในเวลาภายหน้า

※ ดูกรวาเสฏฐะและภารทวาชะ ก็บรรดาวรรณะทั้งสี่นี้ วรรณะใด เป็นภิกษุ สิ้นอาสวะแล้ว มีพรหมจรรย์อยู่จบแล้ว มีกิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ววางภาระเสียได้แล้ว ลุถึงประโยชน์ของตนแล้ว หมดเครื่องเกาะเกี่ยวในภพแล้ว หลุดพ้นแล้ว เพราะรู้โดยชอบ วรรณะนั้นปรากฏว่า เป็นผู้เลิศกว่าคนทั้งหลาย โดยธรรมแท้จริง มิใช่นอกไปจากธรรมเลย ดูกรวาเสฏฐะและภารทวาชะ ความจริงธรรมเท่านั้นเป็นของประเสริฐที่สุดในประชุมชน ทั้งในเวลาเห็นอยู่ ทั้งในเวลาภายหน้า ฯ

No comments:


View My Stats