ต้องขอขอบคุณ เพื่อนร่วมงานที่เทน้ำใจให้ มะไฟ คราวที่คุณแม่ท่านจากไป เมื่อปลายปีก่อนโน้น ๒๕๕๑ และเพราะเหตุนี้ จึงได้มีบุญบังเกิดขึ้นสืบเนื่องมาจากปัจจัยในครั้งกระโน้น ขอกุศลผลบุญที่บังเกิดขึ้น จงบันดาลให้เพื่อนร่วมงานทุกท่าน ประสบความสุข เจริญในหน้าที่การงาน สมปราถนาในทุกประการที่ตั้งใจ
หลาน ลูกของน้องนาง ก็ไม่สาวแล้วหละ มีลูกแล้ว แม้ยังงั้น ก็คงเหลือเค้าความงามเมื่ออดีตอยู่ หลานเอก ตอนนี้ เป็นพระเอกแล้วหละ ฉายาจำได้ไม่หมด แต่เรียกท่านว่า พระเอก คงไม่เป็นไร
วันที่ ๒๐ ไปถึง ก็ทำบุญหาแม่ แล้วโกนหัวหลานชาย นุ่งห่มนาค แล้ว ทำขวัญ พอตกบ่ายแห่นาครอบอำเภอ ก็อำเภอชนบทไม่ได้ใหญ่โตอะไรนักหนา อย่าเข้าใจผิดว่า แหม แห่รอบอำเภอเลยหรือ เก่งน่ะ... ฯลฯ อะไรปานนั้น ไม่หรอก
ค่ำคืนนั้น หนังสือ ธรรมเจดีย์ ธรรมชำระใจ ที่ติดตัวไปด้วย เห็นว่าพี่ชายท่านหนึ่งสนใจหยิบไปอ่าน ก็ยกให้ท่านพี่ไป บอกว่า ผมหาเอาใหม่ได้ หากพี่สนใจ เห็นขนาดนั้น พี่เอาไปอ่านก่อนเถอะ พร้อมกับบอกว่า เนื้อหาในนั้น สั้นกระชับ ไม่ยืดเยื้อ ตรงไปตรงมา บางตอนก็ออกจะติดขำๆไปเสียด้วยซ้ำ
ตกลง ได้ให้ธรรมทาน นี่ก็เป็นบุญอย่างหนึ่ง ในวันนั้น
พอย่ำรุ่ง ราวๆตีสาม ก็ตื่น พาพ่อนาคเข้าโบสถวัดหนอง ก็วัดบึงแก้ว คราวที่เคยไปล่องฝ่าดงบัวกับ ไหม นั่นแหละ
พิธีบวช ศักดิ์สิทธิ์ และคงความขลังไว้เสมอ ในบ้านนอกนี่แหละ ที่เรื่องเหล่านี้ยังคงมีความหมายสูงมาก
สาย ก็เชิญพระเอกมาฉันภัตตาหารเช้า, จังหัน, ที่บ้าน
ปลื้มกันหมดทุกรูปนาม ณ ที่นั้น ในวันนั้น รวมทั้งบรรดาเพื่อนๆของพระเอก ที่สละเวลาอันมีค่าไปเยี่ยม ไปชื่นชม ไปยินดีในบุญงานบวชด้วย โดยพากันเหมารถตู้ไป
พอสายๆ ก็ทำพิธีบรรจุอัฐิธาตุของคุณแม่ลงเจดีย์ ที่วัดโพธิ์ศรีสะอาด อันเป็นวัดที่ พระเอกท่านจำอยู่ระหว่างที่บวช ก็เพราะเหตุที่บ้านนั้น อย่างท่ามกลางวัดทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัดหนอง วัดโพธิ์ วัดศรีสุมังค์ ก็เลยเอาหมด ยกเว้นแต่วัดศรีสุมังค์ไว้เสียหนึ่งวัด
เสร็จงานแล้ว หน่อย น้องนางคนงาม ก็เอาไหมมาอวดเพื่อนๆของพระเอก แต่มีไม่ถูกใจ เลยแนะให้ไปถนนสายไหม ในขากลับ
มะไฟ เลยได้อาศัยบุญ นำส่งกลับบมาปากเกร็ด ด้วยรถตู้นั่นแหละ
ต้องมีอีกตอน สำหรับขากลับ เพื่อยืนยันเรื่อง บุญบันดาล หรือ บุญบงการ หรือ บุญฤทธิ์ นี่แหละ แต่ก่อนจาก ก็ฝากบอกหลาน อืมม พระเอกซิ บอกท่านว่า ให้แผ่เมตตาให้มากมาก แผ่ให้กับผู้ที่กำลังเดือดร้อน ผู้ที่กำลังลำบากอยู่ตอนนี้ แผ่เมตตาไปซะ ก็เอาเคล็ดที่ได้จากหนังสือ ธรรมเจดีย์ นั่นแหละ จตุรารักษ์
No comments:
Post a Comment