Saturday, May 22, 2010

ธรรมปฏิบัติ: แมวลับเล็บ

วันก่อน ค่ำวานนี้แหละ ขับจักรยานเล่นรอบหมู่บ้านตอนค่ำ ไปเจอแมวตัวหนึ่ง มันน่ารักดี ก็เข้าไปเล่นกับมัน ตามประสาฅนรักแมว (ฅรม) สักพัก ลูกแมวตัวนั้น มันก็หันหนีไปลับเล็บตาประสามัน

แว้บหนึ่งของความคิด จากที่เคยเห็นลูกแมวมันเล่นกัน พวกมันเป็นสัต์ตระกูลไล่ล่า มันย่อมฝึกซ้อมมันเองให้คล่องแคล่ว ว่องไว เข้าไว้

นึกได้ แล้วอายแมวมัน ขนาดสัตว์เดรัจฉาน มันยังรู้จักฝึกฝนตนเองเพื่ออนาคตของมันเอง แล้วเราที่เป็นคน ที่สามารถยกระดับเป็น มนุษย์ได้นี่ ทำไมไม่ฝึกตนเองบ้าง

ยังจำได้เลือนราง นายธนูดัดคันศร ชาวนาทดน้ำเข้านา บัณฑิตฝึกตน จากธรรมบท

มันช่างพ้องกันได้ยังไงน่ะ กับ แมวลับเล็บ

บัณฑิตฝึกตน แมวลับเล็บ แล้ว ...

6 comments:

Anonymous said...

สวัสดีครับคุณลุง
อิๆชอบแมวหรือ
ชอบคนชื่อแมวคับ
ส่วนผมขอชอบแมวเหมียวดีกว่า
จากไวน์

มะขาม said...

แมว มันประจบเก่ง
คนเลยเอาไปเปรียบกับหมาว่า แมวประจบ แต่ไม่เชื่องไม่ภักดี ไม่เหมือนหมา ที่จงรักภักดีกับคน ไปโน่น

ก็ถ้าคน มีเมตตาจิตมากมาก สรรพสัตว์ย่อมรักใคร่ อยากอยู่ด้วยเป็นธรรมดา จริงมั้ย

ความรัก ความชัง ก็เพียงแค่สิ่งที่เกิดข้นในภายในจิตใจเรา แค่ นามธรรม รัก ก็ดูว่าเอร็ดอร่อย ชังก็ดูว่าเดือดพล่านรุนแรงเผาไหม้ไปเรื่อย

ซึ่งทั้งคู่ ล้วนแล้วแต่ นำความไม่สงบมาสู่จิตใจทั้งนั้น รู้ดังนี้แล้ว เมื่อเกิดขึ้น ก็จงสะกัดไว้ อย่าให้ต่อเนื่อง

มีรักแล้ว ไม่คลาดแคล้ว ต้องตรมฤทัย เหมือนแบกโลก ทั้งโลกไว้ ให้โศกหนัก ไม่อยากให้ โลกนี้ มีความรัก

แต่ฉันสมัคร แบกรักไว้ ไม่หนักเลย

อย่างนี้รึเปล่า อิอิ

Anonymous said...

555+
ทำไปได้คับคุณลุง
ผมขอแบกไว้ด้วยอีกคน
จากไวน์

มะขาม said...

อันแสงสูรย์ ส่องสว่าง แต่กลางวัน
อันแสงจันทร์ ส่องประจำ ยามราตรี
อันความรัก ร้อนเร่า เผาฤดี
ส่องชีวี ทุกโมงยาม ประจำใจ

มีรักแล้ว ไม่คลาดแคล้ว ต้องตรมฤทัย
เหมือนแบกโลก ทั้งโลกไว้ ให้โศกหนัก
ไม่อยากให้ โลกนี้ มีความร้าาาากกกกก
แต่ฉานซาหมาก แบกร้ากว้าย ม่ายหนากเล้ยยยยยยย

เพลงครับ เพลง ชื่อว่า ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก

เลียนมาจากบทธรรม
แสงพระอาทิตย์ ส่องสว่างยามกลางวัน
แสงพระจันทร์ส่องสว่างยามกลางคืน
แต่แสงแห่งธรรมนั้น ส่องไปทุกที่ทั่วทุกโลก (ยมโลก มนุสสโลก เทวโลก) สว่างไสวไปตลอดกาล แสงแห่งธรรม เยือกเย็น ไม่ทำให้เร่าร้อน

ธรรมครับ

อีกเพลง เอามาจาก อุทานมั้ง ของอรหันต์ ท่านว่า อันน้ำตาของคนทุกข์โศกนั้น หลั่งมาทีละหยด ยังมากกว่าน้ำในมหาสมุทรรวมกัน

นั่นแสดงว่า สรรพสัตว์ ล้วนแล้วแต่จมในทะเลทุกข์

คนเอามาแต่งแผลงเป็นเพลง หยาดน้ำฝน หยดน้ำตา

หยดน้ำตาของคนทุกข์เศร้า ผิดหวังในรัก สั่งสมเป็นทะเลให้ท่านผู้ทีสมหวังได้อาบ ได้เล่นชุ่มฉ่ำใจ
น้ำทะเล รัเหยกลายเป็นน้ำฝน ยามฝนหลั่งลงมา ทำให้เราท่านทั้งหลายเย็นฉ่ำใจ

แต่จะมีใครบ้าง ที่นึกได้ หยาดน้ำฝนนั้น มาจากหยดน้ำตาของผู้ที่ผิดหวังในรัก

รัก คือ ราคะ เป็น หนึ่งในกิเลสตัวเอ้ ราคะ โทสะ โมหะ

มีร้ากแล้วววว
ม่ายคลาดแคล้วววว
ต้องตโรมรื้อทายยยยยยย...ฯลฯ

อิอิ

ไวน์ ยังไม่ม่าย ดังนั้นจึงไม่ต้องตรมฤทัย อย่ากังวลมากไป น่ะ

Anonymous said...

สวัสดีครับคุณลุง

อย่างน้อยเธอก็ทำให้ฉันรู้ว่า
เคยมีความสุขเพียงใด
ได้เป็นคนที่เธอเคยรักก็ดีแค่ไหน
ฉันต้องยอมเข้าใจ
เกิดมาแค่เพียงได้รักกัน
สุดท้ายไม่เป็นอย่างฝัน
ฉันยอมทำใจ

ชื่อเพลง เกิดมาแค่ได้รักกัน ของบิ๊กแอส

ครับฟังทีไรน้ำตาก็ตกใน เพลงนี้เก่าแล้วครับ
ประมาณปี47-48ได้ แต่ผมชอบ
เพราะความหมายมันดีครับ
ฟังทีไรคิดถึงคนแต่ก่อนที่ได้นั่ง
ฟังด้วยกัน เพราะมันคือความทรงจำที่สวยงามครับ
จากไวน์

มะขาม said...

ดีแล้ว ที่รู้จักฟังเพลง
เพลง ให้ทำให้รู้ว่าเรามีอารมณ์สุนทรีย์อยู่ ทำให้เรารู้ว่า รักนั้น มีคุณค่าต่อชีวิตเพียงไร

แต่ก็อย่างว่า รู้แล้ว ก็รีบสะกัดรักไว้ อย่าให้ลุกลามไปไกล มันจะไหม้ตัวเอง

เพราะ รักคือทุกข์ ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ ซึ่งคนทั่วไปมักจะแย้งว่า แม้จะรู้ว่าทุกข์ ก็ยังยินดีที่จะรับทุกข์นั้นไว้

ก็ด้วยเพราะเหตุนี้แหละ โลกถึงได้ยังเป็นโลกอยู่ทุกวันนี้ มีรักตราบเท่าที่ยังมีโลก


View My Stats