Friday, May 28, 2010

วิสาขะบูชา: พฤษภาคมเดือนเกิด


ไหวัพระบรมสารีริกธาตุ ที่สนามหลวง
ก้มลงกราบแผ่นดินเกิด ด้วยสำนึกในบุญคุณ อย่างไม่อายใคร ท่ามกลางแดดเปรี้ยง กลางวันของวันนี้ วันวิสาขะบูชา
พฤษภาคม เดือนเกิด ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ...๑๗ ขวบปีผ่านไปอีกแล้ว

ออกเดินทางจากบ้าน แจ้งวัฒนะ ไปท่าเรือนนท์ จับเรือด่วนเจ้าพระยา วัดราชสิงขร ราวๆเก้าโมงครึ่ง ไม่ถึงห้าสิบนาที ถ้าจำไม่ผิดน่ะ ก็ถึงท่าช้าง ขึ้นท่าที่ท่าช้าง

ระหว่างทาง เรือด่วนวิ่งตีน้ำเจ้าพระยา ราบเรียบ ต้องนับถือต้นหนกัปตันเรือ
อากาศดีมาก ผ่านท่าต่างๆ ที่เตะตา ท่าพายัพ มีตึกเก่าๆใหญ่ๆ มันร้างยับเยินดีจริงๆ

อนิจจัง มันไม่เที่ยง

ระหว่างผ่านน้ำ ได้เห็นวัดสมอราย หรือวัดราชาธิราช ซึ่งพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ ต่างมาทรงผนวชที่นี่ ได้เห็นโดมธรรมศาสตร์ ได้เห็นศิริราชพยาบาล และวัดระฆังโฆสิตาราม

ไปกับหลาน เมื่อขึ้นท่าแล้ว ต่างหิวกันทั้งนั้น เจอก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู กระโจนใส่กันทั้งลุงทั้งหลาน เกลี้ยง

เลาะริมถนน ผ่าน มหาวิทยาลัยศิลปากร ข้ามถนน ตรงดิ่งเข้าไปที่ท้องสนามหลวง บูชาดอกไม้ ธูปเทียน จากปะรำพิธีพระดี ๔ ภาค แล้วเดินเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ

ตั้งนโมฯสามจบเก้าชั้น ระลึกถึงคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ ระหว่างเดินเวียนเทียน เพียงเท่านี้ ก็หมดสามรอบแล้ว ก้มลงกราบพระบรมสารีริกธาตุท่ามกลางแดดยามเที่ยงวัน กลางท้องสนามหลวงนั้นเอง


แผ่นดินนี้ ให้เราเกิด ยังไม่ตอบแทนคุณแผ่นดินเลย ก็ห้าสิบปีกว่าผ่านไปแล้ว วันเวลาที่เหลือ จะทำอะไรได้บ้างน่ะ ยกเว้นความพยายามที่จะปลดเปลื้องอิสระภาพ softwares อย่างที่เกริ่นไว้ข้างซ้ายมือมุมบนซ้ายนั่น

ธรรมศาสตร์ เขาอ้างว่าเหลาดินสอวาดยุติธรรมผ่านแผ่นฟ้า ดูทีรึว่า จะยังคงแน่วแน่ในเจตนานี้ไปได้สักกี่มากน้อย

เพียงเท่านี้ ก็ล้าแล้ว

แวะเข้าซุ้มพระดี ๔ ภาค กราบไหว้พระทุกองค์ ที่นำมาให้กราบไหว้บูชา ได้ พระใส จากมือหลวงพ่อมาองค์หนึ่ง ยื่นให้ยายของหลาน แต่ตัวหลานเอง กลับมอบองค์ที่เธอได้มาให้ มะไฟ

ให้ แล้วมีแต่ได้ นี่ก็อีกครั้งหนึ่งแล้วน่ะ ที่ยืนยันวลีนี้

ขากลับ ย้อนทางเดิม จับเรือด่วนเจ้าพระยา ลงที่ท่าช้าง ไปขึ้นที่ท่าน้ำนนท์ ท่านอาจจะใช้บริการรถตู้ จากท่านนท์ไปลงปากเกร็ด แล้วจับรถตู้จากปากเกร็ด ไปเส้นเมืองมีน ไปราม1 ไปรังสิต ล้วนแต่ผ่านกฤษดานครทั้งนั้น กลับมาได้ ถ้าคิดจะบุกบ้าน มะไฟ น่ะ อิอิ

แต่ด้วยความหิวข้าวเที่ยง เลยคว้าแท้กซี่เหลือง ได้คันหนึ่ง ตรงมากินก๋วยเตี๋ยวที่ท่าสยาม แจ้งวัฒนะ ที่ซึ่งสะทกสะท้อนกับ สยามสแคว์ซอย ๑๐ ยามเมื่อเหลือบตาไปพบข้อความ บนแผ่นป้าย ที่วาดบนผนังคูหาเข้า ระหว่างรอกิน

แม้ไม่ผูกพันอะไรมากนักกับสยาม แต่ก็อย่างว่า สยาม คือ ชื่อประเทศ ที่เขานำมาใช้ทั้งเป็นชื่อโรงหนัง ชื่อคอมเพล็กซ์แห่งนั้น ซึ่งเจ้าเข้าเจ้าของก็ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย สถาบันศึกษาที่มีบุญคุณยิ่งนั่นเอง เขาไม่สามารถใช้พระนาม จุฬาฯ ได้ จึงเลี่ยงมาใช้คำ สยาม แทน

สาระพัดเรื่องราว ทั้งดี ทั้งไม่ดีระหว่าง ๒๕๑๔ ถึง ๒๕๑๘ ที่สามย่าน ก็ย่อมต้องมีบ้างที่แวะเวียนมา สยาม

บัดนี้ แม้สยามจะกระทบกระทั่งไปบ้างตามกาล แต่ สยาม ก็ ยังอยู่ยั้ง ยืนยง เสมอ

เฮ้อ มากินก๋วยเตี๋ยว ที่แจ้งวัฒนะ ดันไพล่ไปนึกถึงสามย่านได้ไงเนี่ย

วันเกิด เราให้อะไรแม่ แทนที่จะขอของขวัญวันเกิดจากแม่ จากพ่อ เราน่าจะถามตัวเองว่า เราให้อะไรท่าน เพราะในวันเกิดนั้น ที่แท้แล้ว ท่านทั้ง ๒ ได้ให้ชีวิตเรามา

นี่คือข้อคิดจากหนังสือที่หลานซื้อมาจากท้องสนามหลวง หลังจากเวียนเทียนแล้วนั่น

หน้าที่ที่ดีของลูกที่พึงมี ที่พึงปฏิบัติต่อ แม่พ่อ ทั้ง ๖ ข้อ จากพระพุทธศาสนานั้น คงทนท้าให้ท่านพิสูจน์เสมอ ไปหาอ่านเอาเองเถิด

ด้วยกุศลที่ก้มกราบแผ่นดินหลังเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ ของความสุขสวัสดี จงมีขึ้นกับทุกรูป ทุกนามเถิด
บุญรักษาน่ะครับ

No comments:


View My Stats