Sunday, July 4, 2010

FussBall: Karlsruhe Deutschland

เมื่อราวๆปี 1982 โชคดี ได้ไปต่างประเทศครั้งแรกในซีงิต ประเทศที่เขาใช้ภาษาเยอรมัน แต่ภาษาต่างประเทศภาษาแรกที่เราเรียนคือ อังกฤษ ที่สอนโดย ครู พื้นเมืองสุรินทร์ที่ใช้ภาษาท้องถิ่งเป้นภาษาเขมร เราเองรึก็ลูกลาว ลาวอีสานน่อ

เอาเถอะ มันจะยุ่งขิงนัวเนียนุงนังยังไง ก็ช่าง ได้ไปนอกล่ะกัน

ก็โชคดี ได้ดูบอล ก็ได้ไปดูทีมบาเยิ่นมิวหนิค ลงเตะกับ คาร์ลสะรูเฮ้ สมัยนั้น รุมมินิ้กเก้ กับ พอล ไบรท์เน่อร์ ยังคงเล่นอยู่

ฟุตบอลเยอรมันเคยเล่นเมื่อก่อนโน้นยังไง ก็ยังคงเล่นอยู่ยังงี้ เมื่อเดี๋ยวนี้ ทีมคาร์ลสะรูเฮ้ ได้บอล ๑ คนที่ครองลูกบอลอยู่ อีก ๒-๓ คนจากบาเยิ่นมิวหนิค ก็มารุม

แล้วมันจะไปรอดเร้อ ก็โดนแย่งบอลไปเท่านั้นเอง

จริงอยู่ นักเล่นทีมคาร์ลสะรูเฮ้ ว่างไม่มีนักบอลจากบาเยิ่นมิวหนิคมาคุม แต่ จะทำอะไรได้ เมื่อไม่มีบอลอยู่กับมือ เอ้ย ตีน

ปีนั้น ได้ดูบราซิลแพ้อิตาลี แต่สนุกเร้าใจมาก แพ้ แต่สวย ซึ่งมันต่างกันลิบลับที่ ชนะแต่น่าเบื่อ
ปีนั้น ได้ยินคนพากษ์เยอรมัน เขาตื่นเต้นมากเมื่อเห็นรุมมินิ้ดเก้ยิงประตูในบอลโลก ตื่นเต้นจนสับสน

รุ้มมม มิมินิกเก้เก้ ฉะฉะชิ้สสสส

ทั้งที่ก็แค่ ถ้าจะบอกออกมาว่า รุมมินิกเก้ ชิ้ส คนก็เข้าใจ

ในหนังเรื่อง อาร์วีจะไปบอลโลก ทีมนั้นก็เช่นเดียวกัน

เล่นตามใจของพวกเอ็ง มันไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วววว
ลุ้ยแม่มันโลด

ทั้งที่ แผน ก็วางและชี้แจงแล้ว สอนก็สอนให้แล้ว มันยังโดนยิงอยู่อีก ก็ต้องบอกนักเตะไปยังงั้น นักบอลก็เพลินไป เท่านั้นเอง และที่สุด ทีมอาร์วี ก็ได้ไปบอลโลกจริงๆ และก็คาดเดาได้ อิ่มไปหลายมื้อ ยิงทีมคู่แข่งไม่ได้เลยสักลูก แบกไข่กลับบ้าน คงเอามาทอด เอามาเจียวกินมั้ง

ทำนองเดียวกันกับครึ่งหลังของการเล่นระหว่าง เยอรมัน กับ อาร์เจนตินา ที่ทีมฟ้าขาว ลุยเอิกเกริก โดยไม่สนใจอะไรนอกจากจะยิงประตูให้ได้

มืออาชีพ กับตีนอาชีพ กับทำอะไรตามใจตนเอง มันต่างกันตรงนี้แหละ น่ะ ฟ้าขาว

มา แล้วก็กลับ เมื่อถึงเวลา

อุรุกวาย ทีมทหารเก่า ดุดันตามแบบฉบับ แต่ นีแดลัน หากนักเล่นจะไม่ถ่มน้ำลายใส่คู่แข่ง กับยกตีนถีบอย่างป่าเถื่อนแล้ว ทีมนี้ เล่นได้สวยงามอีกทีมหนึ่ง แต่เท่าที่เห็น ยังคงเอามือไปลูบหัว ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นอยู่ ยังไงก็พิจารณาว่า ยังคงถือตัวว่าดี ว่าเด่นกว่าผู้ตัดสินอยู่ดี ซึ่งก็ไม่ต่างจากนักเตะดังในอดีต ที่มีพฤติกรรมที่เล่ามาหรอก ไม่ต่างกัน

ไม่เคยเห็นสเปญเล่นจริงๆจังจัง แต่นับถือสปิริตเขามาก คราวที่เขาเป็นเจ้าภาพบอลโลก แล้วเขาตกรอบไปก่อน แต่ น้ำใจนักกีฬาก็คือน้ำใจนักกีฬา แพ้ แต่ชนะใจคนดู ชนะใจคู่ต่อสู่

ดูท่าว่า ดอยชลัน (เยอรมัน) อาจจะได้เข้าชิงกับ นีแดลัน ถ้าสเปญ ไม่ดุดันโหดจนไม้โทหลุด ก็คงหวังยาก ที่จะผ่าน ด้อยชลัน ไปได้ และ อุรุกวาย หากไม่ใช่หัวเล่นบอลเสียบ้าง คงผ่านเข้าไปชิงแชมป์ได้ยาก

กีฬา มันไม่ได้หมายถึงว่า ต้องชนะอย่างเดียวน่ะ

มา แล้วก็กลับ เมื่อถึงเวลา แต่ ตราบเท่าที่ไม่ยอมตาย, ยังผูกเวรจองเวรกันไม่เลิก, เมื่อมีเหตุ มีปัจจัยอันควร ก็กลับมาพบกันอีกได้

No comments:


View My Stats