Tuesday, April 27, 2010

หยดหนึ่งของความเมตตา

ควันหลง
หลังคณิตศาสตร์ ทำไมมันกลายเป็นควันหลงไปได้ เน้อะ
ช่วงสงกรานต์ ก็พา อุรา ลูกชายคนเล็ก ไปสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ ณ มหารามัญเจดีย์ วัดปรมัยฯ หรือ วัดเจดีย์เอียง
ความที่เขาไม่ค่อยได้ไปไหนมากนัก พอชวนไปทำบุญ ทำให้แม่ เขาก็ไป พาเข้าไปในพระอุโบสถ กราบไหว้พระ เขาก็ปฏิบัติตาม

ไปสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ เขาก็ไปด้วย ที่สุด เข้าไปในพระวิหารพระนอน ที่ ร.๕ พระองค์ท่านมาสร้างไว้ เขาก็ไปด้วย และก็เล่าถึงเรื่องที่ น้าไหม เขาอุตสาห์หนีคน จากหน้าอุโบสถมายังวิหารพระนอนนี้ แต่ก็มาเจอะเจอหมู่สุชน ที่เขามาทำบุญ ๙ วัดกัน ยังกับว่า เอาบุญมาให้น้าไหม ให้อุราได้ฟังด้วย

จากนั้น พาไปไหว้พระ ในอุโบสถ วัดเสาธงทอง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของเกาะเกร็ด

ขากลับมา ก็พาไปไหว้พระที่วัดไผ่ล้อม ซึ่งหลวงพ่อที่วัดนี้ ก็ได้ไปสวดให้คุณแม่ของอุรา (ก็เมียของผมนั่นแหละน่า) ด้วยในคราวโน้น ในปี ๒๕๓๗ นู้นแนะ

ไหว้พระแล้ว ก็แผ่เมตตาน่ะลูก
ฮับพ่อ
รู้มั้ย น้ำตาทีละหยดที่หลั่งรินออกมาของคนที่ทุกข์โศก มันมากมายมากกว่าน้ำในมหาสมุทร
ฮับพ่อ
รู้มั้ย น้ำทีละหยดเล็กๆ แม้จะหยดช้า แต่ถ้าหยอลงมาเรื่อยๆ บ่อยๆ ก็เต็มตุ่มได้
ฮับพ่อ
ทำบุญ ก็เหมือนกันน่ะ ทำบ่อยๆ
ฮับพ่อ
แผ่เมตตา ก็เหมือนกัน ทำบ่อยๆเข้า เมตตาจิตของเราก็จะเข้มแข็ง
ฮับพ่อ
พลังแห่งความเมตตาก็จะมาก ก็จะแรง
ฮับ พ่อ


แผ่เมตตาบ่อยๆน่ะลูก เมตตาจิตที่ลูกแผ่ออกไปนี่แหละ พระท่านว่า นอนก็ฝันดี ตื่นก็เป็นสุข พิษร้อนไม่ได้กิน เป็นที่รักของมนุษย์ เปนที่รักของเทวดา ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนรัก คอยช่วยเหลือ
ฮับพ่อ
สำคัญเมตตาจิตหยดแรกของลูกนี่แหละ จะไม่หยาดออกไปให้สัตว์ผู้เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้สัมผัสกับความเยือกเย็นทีเดียวเจียวหรือ ฮึ
ทำไงคับพ่อ
ว่าตามน่ะ
คับ

สัตว์ทั้งหลาย
ที่เปนเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเอ๋ย
จงเปนสุขเปนสุขเถิด
อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย

สัตว์ทั้งหลาย
ที่เปนเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเอ๋ย
จงเปนสุขเปนสุขเถิด

อย่าได้เจ็บไข้ ลำบากกายลำบากใจเลย

สัตว์ทั้งหลาย
ที่เปนเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเอ๋ย
จงเปนสุขเปนสุขเถิด
อย่าได้มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจเลย

สัตว์ทั้งหลาย
ที่เปนเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเอ๋ย
จงมีความสุขกาย สุขใจ รักษาตนให้พ้นจากภัยทั้งหลายเถิด

เท่านี้แหละลูก
คับ
มีสองตอน ตอนแรก ๓ ท่อน ไม่อยากให้เป็น ตอนหลัง ๑ ท่อน อยากให้เป็น
ที่สำคัญ ต้องว่าออกมาจากใจ นึกออกมาจากใจของลูกโดยแท้จริง
คับ
ดีแล้ว
เพียงหยดหนึ่งของความเมตตาจากใจของลูก อาจจะทำให้โลกสงบลงก็ได้
ใครจะรู้
กรรมเก่าของแต่ละคน ไม่เหมือนกัน
แต่เพียงสร้างบุญร่วมกันมาเท่านั้นหรอก ถึงนำชักให้ได้มาพบประสบกัน
เมื่อได้เกิดมาแล้ว ก็หมั่นทำบุญน่ะ บุญง่ายๆ ที่พ่อเคยบอกไว้นั่นแหละ

ก็แล ณ ที่วัดไผ่ล้อมนี่เอง ที่ได้คิดไปว่า ชั่วขณะจะก้าวขาออกไป เราจะไปเหยียบย่ำเอา กระทำเอา รูปนาม ที่ตาเรามองไม่เห็น ให้แตกทำลายไปรึเปล่าหนอ, นานมาแล้ว เมื่อครั้งผ่าตัดไส้เลื่อนคราวนู้น

ก็หน้าร้านทอซอง ชื่อทำนองนี้แหละ ตรงปากทางเข้าออกวัดไผ่ล้อม ที่พวกเราสองพ่อลูกไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวมอญ อุราเห็นมดดำตัวเล็กๆ แล้วถึงกับโพล่งออกมาว่า กลัวว่าจะทำให้มดมันตาย

ก็เล่าความจริงที่เกิดขึ้นกับจิตใจของตัวเอง ที่เกี่ยวกับ รูปนามที่มองด้วยตาไม่เห็นนั่นแหละ ให้ลูกได้รับฟัง ให้เขาได้รับทราบ

บังเอิญ เน้าะ
หยดหนึ่งแห่งเมตตาจิต ได้หยาดออกมาโดยไม่รู้ตัว

No comments:


View My Stats